ปัณหานี้เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นคนขับเองก็ดี หรือผู้ร่วมเดินทางลูกเด็กเล็กแดงก็ดี เผลอเปิดไฟในรถทิ้งไว้ ปัณหาใหญ่ระดับชาติ ทำให้แบตเตอรี่ไฟหมด แบตรถเพิ่งเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ ทางร้าน พีพี แบตเตอรี่ จะมาแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้นกันครับ
- ขั้วบวกจะมีสัญลักษณ์เครื่องหมายบวก (+) และโดยปกติจะมีสายไฟสีแดงต่ออยู่
- ขั้วลบจะมีสัญลักษณ์เตื่องหมายลบ (-) และโดยปกติจะมีสายไฟสีดำต่ออยู่
2
รถอีกคันที่มีแบตเตอรี่ปกติมาจอดใกล้ๆ แต่ไม่แตะกับรถคันที่แบตเตอรี่ไฟหมด. โดยจอดในลักษณะที่ระยะระหว่างแบตเตอรี่ของรถทั้งสองใกล้กันเท่าที่จะทำได้ ปิดเครื่องยนต์, วิทยุ, ไฟ, แอร์, พัดลม และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ทำเช่นเดียวกันนี้กับรถที่แบตเตอรี่ไฟหมดด้วย ห้ามให้รถทั้งสองคันแตะกันโดยเด็ดขาด
- ถ้ารถแตะกัน การจั๊มแบตเตอรี่สามารถทำให้เกิดประกายไฟอันตรายระหว่างรถทั้งสองได้
- บางครั้งอาจจำเป็นต้องถอดสายไฟของแบตเตอรี่ที่เสื่อมออกจากขั้วต่อ และทำความสะอาดทั้งสายไฟและขั้วต่อโดยใช้แปรงลวดทำการแปรงคราบสนิมออกไป ต่อสายไฟเข้ากับขั้วแบตเตอรี่ตามเดิม แล้วทำการจั๊มแบตเตอรี่
- ถ้ามีฝาครอบป้องกันขั้วต่อสีแดงที่ขั้วบวก (+) ให้เอาออก
4ต่อสายจั๊มตามลำดับต่อไปนี้:ต่อปากคีบสีแดงด้านหนึ่งเข้ากับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ที่ไฟหมด
- ต่อปากคีบสีแดงอีกด้านหนึ่งเข้ากับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ปกติ
- ต่อปากคีบสีดำด้านหนึ่งเข้ากับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ปกติ
- ต่อปากคีบสีดำอีกด้านหนึ่งเข้ากับชิ้นส่วนโลหะที่เป็นกราวด์ของรถคันที่สตาร์ทไม่ติด แนะนำให้ต่อเข้ากับสลักที่ยึดสายไฟขนาดใหญ่ที่ต่อจากขั้วลบของแบตเตอรี่เข้ากับตัวถังรถ ถ้าหาไม่เจอให้มองหาส่วนที่เป็นโลหะมันวาว (ที่ไม่ถูกทาสี หรือมีคราบน้ำมัน) ที่ต่อกับเครื่องยนต์ โดยปกติ น็อต, สลัก หรือชิ้นส่วนโลหะมันวาวอื่นๆ ที่เหมาะกับปากคีบก็สามารถใช้ได้ คุณอาจเห็นประกายไฟเล็กๆ ถ้าคุณต่อเข้ากับจุดที่เป็นกราวด์สมบูรณ์ ถ้าหาไม่ได้คุณอาจต่อเข้ากับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ที่ไฟหมดก็ได้ แต่วิธีนี้เสี่ยงที่อาจจะเกิดการระเบิดของแก๊สไฮโดรเจนที่ออกมาจากแบตเตอรี่ได้
- ตรวจดูให้แน่ใจว่าว่าไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของสายไฟห้อยไปที่บริเวณเครื่องยนต์ ซี่งมันอาจไปโดนอุปกรณ์ที่เคลื่อนไหวได้
5 สตาร์ทรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติ. แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์หมุนไปประมาณ 2-3 นาที ห้ามเร่งเครื่องยนต์ หลังจากนั้นให้เร่งเครื่องยนต์ขึ้นเล็กน้อยเป็นเวลา 30 ถึง 60 วินาที เพื่อเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ของรถที่สตาร์ทไม่ติด เนื่องจากว่าเมื่อเราสตาร์ทรถคันที่แบตเตอรี่ไฟหมด วงจรสตาร์ทจะดึงกระแสไฟตามที่มันต้องการ (มากกว่า 100 แอมป์ ) จากแบตเตอรี่ ไม่ใช่ดึงผ่านสายจั๊มจากแบตเตอรี่ปกติ สายจั๊มที่ขายตามร้านทั่วไปไม่ได้ผลิตมาเพื่อรองรับกระแสไฟขนาดที่วงจรสตาร์ทต้องการ ดังนั้นการชาร์จแบตเตอรี่เป็นสิ่งจำเป็น ถ้า 30 วินาทีไม่พอ ให้ลองชาร์จไปจนเต็ม 60 วินาที โดยให้เครื่องยนต์หมุนที่ความเร็วรอบสูง จุดต่อที่สะอาดและสมบูรณ์ระหว่างสายแบตเตอรี่กับขั้วแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญ
6 ทดลองสตาร์ทรถคันที่สตาร์ทไม่ติด. ถ้ารถไม่สตาร์ทให้ดับเครื่องยนต์ของรถคันที่แบตเตอรี่ปกติ และถอดปากคีบอันที่ต่อหลังสุดออกชั่วคราว แล้วบิดหรือขยับปากคีบแต่ละอันเพื่อให้แน่ใจว่าการต่อวงจรไฟฟ้าสมบูรณ์ สตาร์ทรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติอีกครั้งแล้วปล่อยทิ้งไว้อีก 5 นาทีเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ก่อนที่จะสตาร์ทรถคันที่แบตเตอรี่หมด ถ้ารถยังสตาร์ทไม่ติดหลังจากที่ลอง 2-3 ครั้งแล้วคุณอาจต้องเรียกรถมาลาก หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่
การจั๊มสตาร์ทรถ ยนต์เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้ เพราะอาจต้องทำในภาวะฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ต้องทำด้วยความระมัดระวังในหลายขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยต่อตัวคนและรถยนต์ทั้งสองคัน ทั้งนี้ สิ่งที่ช่วยป้องกันได้ก็คือ การหมั่นตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์เป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล และควรนำรถไปเข้าศูนย์ตามระยะเพื่อตรวจสอบความผิดปกติของเครื่องยนต์ ที่ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่และส่วนอื่น ๆ ด้วย